กองทุนรวมมีสถานะเป็นนิติบุคคลแยกต่างหากจากบริษัทจัดการกองทุน ดังนั้นผลประกอบการหรือความน่าเชื่อถือของบริษัทจัดการกองทุนจึงไม่เป็นเครื่องชี้วัดถึงผลตอบแทนหรือเป็นหลักประกันของเงินลงทุนแต่อย่างใด
กองทุนรวมเกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อพ.ศ.2520 โดยบลจ.เอ็มเอฟซี ภายใต้ชื่อกองทุนสินภิญโญ ด้วยขนาดกองทุน 100 ล้านบาทและมีอายุโครงการ 10 ปี
โครงสร้างของกองทุนรวม
ในการดำเนินกิจการจัดการลงทุน จะประกอบไปด้วย- บริษัทจัดการกองทุน (Investment Company)
- นักลงทุนผู้ถือหน่วยลงทุน (Unit Holder)
- ผู้ดูแลผลประโยชน์ (Trustee) และยังประกอบไปด้วย
- ตัวแทนที่เปิดรับซื้อขายหน่วยลงทุน
- นายทะเบียนหน่วยลงทุน
การลงทุนในกองทุนรวม
บริษัทจัดการกองทุนจะออกหนังสือชี้ชวนให้แก่นักลงทุน เพื่อให้นักลงทุนที่สนใจพิจารณาตัดสินใจก่อน จากนั้นบริษัทก็จะออกหน่วยลงทุน (unit trusts) มักจะออกขายราคาเริ่มต้นที่หน่วยละ 10 บาท ส่วนนักลงทุนที่สนใจในกองทุนรวมนั้นก็จะซื้อหน่วยลงทุนนั้นๆ และนักลงทุนก็ได้รับผลตอบแทนในรูปเงินปันผล (dividend) หรืออาจจะได้ในรูป กำไรส่วนต่าง (capital gain) ดอกเบี้ยรับ ส่วนลดรับ ซึ่งผลตอบแทนก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของการบริหารโดยบริษัทจัดการกองทุนและผู้จัดการกองทุน ว่าจะมีความสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนหรือผู้ถือหน่วยลงทุนได้มากน้อยเพียงใดประเภทของกองทุนรวม
- แบ่งตามการรับซื้อ
- กองทุนปิด (Close-end Mutual Fund) เป็นกองทุนที่ขายหน่วยลงทุนให้กับนักลงทุนเป็นจำนวนจำกัดขนาด และเวลาในการไถ่ถอนหรือขายคืนให้กับบริษัทจัดการกองทุนจะกำหนดไว้ในหนังสือชี้ชวนก่อนจำหน่ายไว้แล้ว และในระหว่างเวลาที่ถือหน่วยลงทุนจะไม่สามารถขายคืนได้จนกว่าจะครบกำหนด คือกำหนดวันหมดเวลาของหน่วยลงทุนซึ่งบริษัทจัดการกองทุนจะรับซื้อตามมูลค่าที่ครบกำหนดซึ่งอาจจะมากขึ้นหรือลดลงก็ได้ แต่บางครั้งกองทุนปิดก็สามารถทำการซื้อขายได้ตลอดถ้าบริษัทจัดการกองทุนนำกองทุนปิดที่ตนเองออกขายให้กับนักลงทุน ไปจดทะเบียนไว้ในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งผู้ถือหน่วยลงทุนจะสามารถขายผ่านตลาดหลักทรัพย์ได้ซึ่งเป็นการเพิ่มสถาพคล่องให้กับผู้ถือหน่วยได้อีกทางหนึ่ง
- กองทุนเปิด (Open-end Mutual Fund) เป็นกองทุนที่ขายหน่วยลงทุนให้นักลงทุนเป็นไม่จำกัดขนาดและเวลาในการไถ่ถอน คือนักลงทุนสามารถที่จะซื้อหรือจะขายเมื่อไหร่ก็ได้และระยะเวลาของหน่วยลงทุนจะไม่มีกำหนด โดยไม่ต้องจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์ สามารถซื้อขายผ่านบริษัทหลักทรัพย์นั้นๆได้เลย
- แบ่งตามนโยบายการลงทุน
- กองทุนตราสารหนี้ (General fixed income fund) เป็นกองทุนที่ขายหน่วยลงทุนให้กับนักลงทุนเพื่อนำเงินไปลงทุนในตราสารหนี้ ตราสารหนี้ภาครัฐบาล และ ตราสารหนี้ภาคเอกชน เช่น พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ ผลตอบแทนที่จะอยู่ในรูปดอกเบี้ยรับที่จะไปเพิ่มมูลค่าหน่ายลงทุนสุทธิ (Net Asset Value) หรือ (NAV) ให้สูงขึ้น
- กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น (Short-term fixed income fund) : < 1 ปี
- กองทุนตราสารหนี้ระยะยาว (Long-term fixed income fund) : >= 1 ปี
- กองทุนตราสารทุน (Equity fund) เป็นกองทุนที่ขายหน่วยลงทุนให้กับนักลงทุนเพื่อนำเงินไปลงทุนในตราสารทุน ประเภทหุ้นสามัญ ที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ผลตอบแทนที่ได้ขึ้นอยู่กับบริษัทจัดการกองทุนว่าจะเป็นผลตอบแทนประเภทจ่ายเงินปันผล (dividend) หรือจากกำไรส่วนต่าง (capital gain)
- กองทุนตลาดการเงิน (Money market fund) เป็นกองทุนที่ขายหน่วยลงทุนให้กับนักลงทุนเพื่อนำเงินไปลงทุนในตลาดการเงิน เช่นฝากธนาคารหรือนำไปลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นที่มีอายุไม่เกิน 1 ปี ผลตอบแทนที่ได้จะอยู่ในรูปดอกเบี้ยรับซึ่งจะไปเพิ่มมูลค่าให้กับหน่วยลงทุนสุทธิ (Net Asset Value) หรือ (NAV) ราคาหน่วยลงทุนจะเพิ่มขึ้นนั้นเอง และมีลักษณะคล้ายๆกับกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นอีกด้วย แต่ที่ต่างกันคือ กองทุนตลาดการเงินจะเอาเงินบางส่วนไปฝากไว้กับธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยสูงอีกด้วย
- กองทุนอสังหาริมทรัพย์ (Property fund) เป็นกองทุนที่ขายหน่วยลงทุนให้กับนักลงทุนเพื่อนำเงินไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โดยการนำเงินที่ได้ไปเช่าในระยะยาว 20-30 ปี ในอาคารหรือที่ดินที่เป็นประโยชน์และผลตอบแทนที่ได้คือ ค่าเช่าจากการนำไปทำประโยชน์ ผู้ถือหน่วยจะได้รับผลตอบแทนในรูปเงินปันผล (dividend) ในแต่ละปี แต่กองทุนนี้จะให้ผลตอบแทนในระยะยาว ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปกองทุนปิด และนำไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อสร้างสภาพคล่องให้แก่ผู้ที่ถือหน่วยลงทุนและเปิดโอกาสให้กับผู้ที่ต้องการซื้อหน่วยลงทุนได้อีกด้วย ทั้งนี้รูปแบบการลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ มี 2 ประเภท
- กองทุนอสังหาริมทรัพย์แบบมีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ (Freehold) คือกองทุนรวมเป็นเจ้าของในตัวทรัพย์สินโดยตรง เป็นการซื้อขาด กองทุนสามารถรับค่าเช่าได้เต็มที่ สามารถขายตึกได้ และจะไม่มีวันหมดความเป็นเจ้าของในตัวทรัพย์สิน จนกว่ากองทุนจะขายทรัพย์สินนั้นให้แก่ผู้อื่น
- กองทุนอสังหาริมทรัพย์เพื่อสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ (Leasehold) คือ กองทุนจะได้รับสิทธิในการหารายได้จากทรัพย์สินนั้นๆ ในระยะยาวผ่านสัญญาเช่า ซื่งจะมีระยะเวลาที่กำหนดตามสัญญา หรือเรียกว่าการ "เซ้ง" นั่นเอง
- กองทุนทองคำ (Gold fund) เป็นกองทุนที่ขายหน่วยลงทุนให้กับนักลงทุนเพื่อนำเงินไปลงทุนในทองคำ ซึ่งผู้ที่ถือหน่วยจะไม่ได้ถือทองคำจริงๆ แต่จะถือในรูปหน่วยลงทุนซึ่งผลตอบแทนที่ได้จากกองทุนทองคำคือมูลค่าที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งอยู่ในรูปกำไรส่วนต่าง (capital gain)
- กองทุนตราสารหนี้ (General fixed income fund) เป็นกองทุนที่ขายหน่วยลงทุนให้กับนักลงทุนเพื่อนำเงินไปลงทุนในตราสารหนี้ ตราสารหนี้ภาครัฐบาล และ ตราสารหนี้ภาคเอกชน เช่น พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ ผลตอบแทนที่จะอยู่ในรูปดอกเบี้ยรับที่จะไปเพิ่มมูลค่าหน่ายลงทุนสุทธิ (Net Asset Value) หรือ (NAV) ให้สูงขึ้น
Ref.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น